Friday, August 29, 2014

เรามาปลูกต้นไม้กันเถอะ!


ใน วันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม 2557 กลุ่มเราได้ทำการปลูกต้นไม้เพื่อพัฒนาชุมชนใน ต.บ้านไร่ อ.เมือง จ.ราชบุรี โดยพวกเรานั้นเล็งเห็นว่าต้นไม้นั้นสามารถให้ประโยชน์แก่ชุมชนได้ประการ ทั้งสร้างความร่มรื่น และทำให้ชุมชนสวยงามน่าอยู่ยิ่งขึ้นไปอีกด้วย อีกทั้งยังสามารถช่วยในเรื่องของการลดภาวะโลกร้อนอีกด้วย





  ต้นไม้ที่ใช้ปลูกคือ ต้น"คูน" หรือ ต้น"ราชพฤกษ์"


ลักษณะของพืช  : คูนเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ใบรูปไข่ปลายแหลม ดอกเป็นช่อระย้าสีเหลือง และมีกลิ่นหอมอ่อนๆด้วย ฝักกลมยาวเวลาอ่อนฝักมีสีเขียวใบไม้  แก่จัดจะมีสีน้ำตาล

อีกทั้งต้นคูนมีสารพัดสรรพคุณ เช่น
  • ใบ  -   ขับพยาธิ
  • ดอก - แก้บาดแผลเรื้อรัง
  • เปลือก  -  บำรุงโลหิต
  • กระพี้ -  แก้โรครำมะนาด
  • แก่น -  ขับไส้เดือนในท้อง
  • ราก -  แก้ไข้ แก้โรคคุดทะราด
  • เมล็ด - รักษาโรคบิด

  • ฝักแก่ - รสหวานเอียนเล็กน้อย เป็นยาระบายถ่ายสะดวกไม่มวนไม่ไซ้ท้อง มีสารแอนทราควิโนน (Anthraquinoneglycoside) เป็นตัวยาระบาย











    และในวันเดียวกัน เพื่อนๆอีกกลุ่มของเราได้ปลูกต้นไม้พัฒนาชุมชนในท้องถิ่น ที่ตำบลคลองตาคต อำเภอโพธาราม จ.ราชบุรี                                        



                




     


                                                                                                                                                                             



 ปลูกไม้ยืนต้นในที่ผืนดินที่ค่อนข้างแห้งแล้งและปลูกถั่วเขียวซึ่งเป็นพืชคลุมหน้าดิน 

ทำไมการปลูกพืชพวกถั่วทำให้ดินดี

ดินที่ดีต้องมีไนเตรทสำหรับพืชดูดขึ้นมาเป็นอาหารอาจทำได้โดยใส่ปุ๋ยไนเตรมลงในดิน หรือโดยการปลูกพืชจำพวกถั่ว เช่น ถั่วเขียว ถั่วลิสง ถั่วฝักยาว และถั่วอื่นๆ อีกหลายชนิด พืชจำพวกถั่วสามารถเปลี่ยนไนโตรเจนในอากาศมาเป็นสารประกอบไนโตรเจนซึ่งพืชใช้เป็นอาหารได้ โดยอาศัยความร่วมมือระหว่างถั่วกับบัคเตรีบางชนิดในดิน บักเตรีจะจับกลุ่มอยู่ที่รากของถั่ว ดังที่เราเห็นปมตามรากถั่ว บักเตรีใช้บางส่วนของพืชเป็นอาหารและทำหน้าที่ดึงไนโตรเจนในอากาศลงมาในดิน เมื่อพืชตายและรากเน่าเปื่อยไปทำให้ปริมาณไนเตรทในดินมีมากขึ้น การปลูกพืชหมุนเวียนด้วยถั่วจึงทำให้ดินมีปุ๋ยดีขึ้น การที่พืชและบักเตรีอาศัยซึ่งกันและกันเช่นนี้เป็นอุทาหรณ์อีกอันหนึ่งของการอยู่ร่วมกัน บักเตรีในพืชจำพวกถั่วนี้นอกจากใช้ปรุงอาหารจำพวกไนเตรทแล้วรากของถั่วสามารถหยั่งลึกลงไปในดินแข็งๆ ได้ จึงทำให้ดินมีปุ๋ยดีหยั่งลึกลงไปใต้ผิวดินเกินกว่าปกติซึ่งเป็นการช่วยให้พืชอื่นๆ ที่นำมาปลูกทีหลังสามารถหยั่งรากลงไปลึกๆ ได้ โดยวิธีการนี้ทำให้ดินส่วนลึกๆ แตกแยกออกจากกัน บักเตรีและน้ำสามารถลงไปลึกกว่าปกติได้ ในที่สุดรากของต้นไม้จะหยั่งลึกลงไปจนถึงชั้นแร่ธาตุที่อยู่ใต้พื้นดินลึกๆ ได้ นอกจากนี้พืชจำพวกถั่วยังช่วยทำให้พื้นดินชุ่มชื้นขึ้นหลังจากการหว่านไถแล้ว พืชตระกูลถั่วเป็นพืชชนิดที่ทำให้ดินมีปุ๋ยดีที่สุด ทั้งยังทำให้รากของต้นไม้สามารถหยั่งลึกลงไปในดินได้มากกว่าปกติ



  • ทำไมเราถึงต้องปลูกต้นไม้?
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

    ปลูกต้นไม้ 1 ต้น ได้อะไรมากกว่าที่คิด 
         วันนี้ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ได้รับความสนใจจากผู้คนมากที่สุดคือ  ปัญหาโลกร้อน หรือสภาวะเรือนกระจก  ซึ่งวิธีการแก้ปัญหา หรือลดความรุนแรงของปัญหานี้ได้ดีที่สุดก็คือ การเพิ่มพื้นที่สีเขียว หรือการปลูกต้นไม้เพิ่มนั่นเอง

         เป็นความรู้ตั้งแต่สมัย มัธยมว่า ต้นไม้ช่วยลดโลกร้อนด้วยการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกเข้าไปเพื่อใช้ในการสังเคราะห์แสง โดยตลอดอายุขัยของไม้ยืนต้น 1 ต้น จะสามารถเก็บกักคาร์บอนได้เฉลี่ย 1-1.7 ตันคาร์บอน และยังสามารถดูดซับก๊าซอื่นๆ ที่เป็นพิษต่อร่างกายมนุษย์ และสิ่งแวดล้อมได้อีก เช่น ก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ และก๊าซโอโซนเป็นต้น

         นอกจากนี้ต้นไม้ 1 ต้นยังสามารถดักจับอนุภาคมลพิษบางชนิดได้ เช่น ฝุ่น ควัน ไอพิษต่างๆ ได้ถึง 1.4 กิโลกรัม/ปี

         ต้นไม้ 1 ต้น จะปลดปล่อยก๊าซออกซิเจนที่คนและสัตว์จำเป็นต้องใช้ในการหายใจออกมา ได้ถึง 200,000 – 250,000  ลิตรต่อปี ซึ่งสามารถรองรับความต้องการก๊าซออกซิเจนของมนุษย์ได้ถึง 2 คนต่อปี  (ความต้องการก๊าซออกซิเจนของคน = 130,000 ลิตร / คน / ปี)

         แต่ นอกจากประโยชน์ในการช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศแล้ว ต้นไม้ยัง เป็นแหล่งอาหาร ยารักษาโรค เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตนานาชนิด อาทิ ไลเคน มอส  เฟิร์น ไม้เถา และพืชอิงอาศัย สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังเช่น มด  แมลง แมงมุม และสัตว์มีกระดูกสันหลังเช่น นก กิ้งก่า จิ้งจก งู กระรอก

         ดินที่ร่วนซุย และอุดมสมบูรณ์ใต้ต้นไม้สามารถอุ้มน้ำได้ถึง 50% ในดินที่ร่วนซุยยังเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิด เช่น ไส้เดือนดิน กิ้งกือ ตะขาบ กิ้งก่า กบเขียด หนู มดและแมลงต่างๆ

         ต้นไม้ยังสามารถป้องกันแสงและความร้อนจากดวงอาทิตย์ น้ำที่ระเหยจากการคายน้ำที่ใบใบยังช่วยดูดความร้อนจากบรรยากาศ ทำให้อุณหภูมิบริเวณนั้นลดลงได้ถึง 3-5 องศาเซลเซียส หากปลูกต้นไม้ไว้บริเวณบ้านจะช่วยลดอุณหภูมิรอบๆ บ้านได้ถึง 2-4 องศาเซลเซียส และการปลูกต้นไม้ในรั้วบ้านยังเป็นการปรับปรุงทัศนียภาพ ตกแต่งบ้านให้สวยงามร่มรื่น

         นี่ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของประโยชน์ที่จะได้จากการปลูกต้นไม้เพียง 1 ต้น หากปลูกรวมกันหลายๆ ต้น เป็นสวน เป็นป่า เกิดเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้อยใหญ่ เป็นระบบนิเวศ จะก่อเกิดประโยชน์ต่างๆ อีกมากมายมหาศาลให้แก่มวลมนุษย์ ธรรมชาติ และโลกของเรา
     
    credit :
    - http://www.seub.or.th/index.php?option=com_content&view=article&id=350:seubmews&catid=5:2009-10-07-10-58-20&Itemid=14  
    - http://www.l3nr.org/posts/337158
    - http://www.ajareeherb.com/2010-06-10-03-39-49/2010-06-10-08-06-54.html
  • -http://www.tei.or.th/ce/th_ce_branch.htm


 

2 comments:

  1. กลุ่มมี 3 คนเหรอ
    ปลูกกันกี่ต้นล่ะเนี่ย

    ReplyDelete
  2. กลุ่มมี 5 คนค่ะ พอดีอีก 2 คนบ้านไกล เลยตกลงว่าแยกกันไปทำคนละที่ แต่ยังไม่ได้อัพบล็อค อัพอันนี้รอไว้ก่อน
    ปลูกต้นไม้ 5 ต้นค่ะ แต่ถ่ายถ่ายมาตอนกำลังปลูกต้นเดียว

    ReplyDelete